วันเสาร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2555

การตอบสนองของพืช


จุฑามาศ หลักคำ เลขที่ 14 ม.6/13
รับผิดชอบสืบค้นข้อมูล 4 คำได้แก่ สารที่ควบคุมการเจริญเติบโต , ออกซิน ,
 จิบเบอเรลลิน , ไซโทไคนิน , เอทีลีน

สารที่ควบคุมการเจริญเติบโตของพืช

                   สารควบคุมการเจริญเติบโต หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า
 ฮอร์โมนจัดเป็นกลุ่มของสารที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมากใน
ปัจจุบันนี้ เนื่องจากสามารถใช้ประโยชน์ได้กว้างขวางและเห็นผลได้
ค่อนข้างเด่นชัดโดยมากใช้ในการติดผล  เร่ง หรือชะลอการ
แก่การสุกซึ่งลักษณะต่าง ๆ เหล่านี้ถูกควบคุมโดยสารแต่ละ
ชนิดแตกต่างกันไปดังนั้น 
ถ้ามีการเลือกใช้ได้อย่างถูกต้องก็จะทำ
ให้เราสามารถควบคุมการเจริญเติบโตของพืชได้ตามต้องการ


                 คุณสมบัติของสารที่จัดเป็นสารควบคุมการเจริญเติบโตของพืช สามารถแยกออกเป็นข้อๆ ได้ดังนี้                 
                 1. เป็นสารอินทรีย์
 (Organic Compound)
 เป็นสารอินทรีย์ที่สูตรโครงสร้างประกอบด้วย C H หรือ O
ไม่ว่าสารนั้นจะเป็นสารที่พืชสร้างขึ้น สกัดได้มาจากพืช
 หรือเป็นสารสังเคราะห์โดยมีผลต่อการเจริญเติบโตของพืช
 อาจจะส่งเสริม ยับยั้ง หรือชะลอการเจริญเติบโตของพืช
 มีสารบางชนิดที่มีผลในการส่งเสริมการเจริญเติบโตของ
พืชได้ เช่น ธาตุอาหารที่ให้แก่พืช แต่ไม่ได้จัดเป็นสารควบคุม
การเจริญเติบโตของพืชและมีสารบางชนิดสามารถชักนำให้พืช
ออกดอกได้ แต่ก็ไม่จัดเป็นสารควบคุมการเจริญเติบโตของพืช
 เช่น โปแตสเซียม ไนเตรท (
KNO3) ที่สามารถชักนำให้มะม่วง
ออกดอกได้

                  2. ใช้ในปริมาณเล็กน้อยหรือความเข้มข้นต่ำ
(
Low Concentration) เป็นสารที่พืชสร้างขึ้นในปริมาณเล็กน้อย
หรือเป็นสารสังเคราะห์แต่นำมาใช้ในปริมาณเล็กน้อย
(ประมาณ
1 มิลลิโมลต่อลิตร หรือน้อยกว่า)และมีผลต่อการ
เปลี่ยนแปลงการเจริญเติบโตของพืชได้ สำหรับสารอินทรีย์อื่นๆ
 เช่น น้ำตาล ซึ่งพบว่าพืชสร้างขึ้นในปริมาณมาก จึงไม่จัดเป็น
สารควบคุมการเจริญเติบโตของพืช

                  3. มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยา
ของพืช
 (Physiological Response)เช่น การสังเคราะห์แสง
การหายใจ การเจริญเติบโตของพืช การออกดอก
การติดผลและการพัฒนาของผล การแก่ชรา และการพักตัว
ของตาและเมล็ด เป็นต้น
   
              4. ไม่เป็นธาตุอาหารพืชหรืออาหารพืช

(
Not Plant Nutrients หรือ Organic Materials)
ธาตุอาหารที่พบในพืชหรือให้แก่พืช หรือธาตุอาหารใน
 รูปต่างๆ ที่พืชสังเคราะห์ขึ้นมาและพืชเก็บสะสมเอาไว้
เช่น แป้ง น้ำตาล กรดอะมิโน ไม่จัดเป็นสารควบคุม
การเจริญเติบโตของพืช



สารควบคุมการเจริญเติบโตของพืช

สารควบคุมการเจริญเติบโตนำมาใช้ประโยชน์ได้กว้างขวาง ทั้งทางด้าน
การเพิ่มผลผลิต การผลิตพืชนอกฤดู ลดแรงงานในการผลิตพืช เป็นต้น การใช้สาร
ให้ได้ผลตามที่ต้องการนั้นจะต้องทราบคุณสมบัติของสารแต่ละชนิดและเลือกใช้ใ
ห้ถูกกับวัตถุประสงค์ที่ต้องการ จึงขอยกตัวอย่างการใช้ประโยชน์จากสารเหล่านี้
เพียงบางประการเพื่อใช้เป็นแนวทางในการผลิตพืชต่อไป

1. ออกซิน คุณสมบัติที่สำคัญของออกซินข้อหนึ่งคือ
 ความสามารถในการกระตุ้นการเกิดรากและการเจริญของราก
 จึงได้มีการนำออกซินมาใช้กับกิ่งปักชำหรือกิ่งตอนของพืชทั่ว ๆ ไป
 เพื่อเร่งให้เกิดรากเร็วขึ้นและมากขึ้น

ภาพ : การใช้ฮอร์โมนช่วยเร่งรากของกิ่งปักชำ
2. จิบเบอเรลลิน มีคุณสมบัติสำคัญเกี่ยวข้องกับการยืดตัวของเซลล์
 ดังนั้นจึงใช้ในการเร่งการเติบโตของพืชทั่ว ๆ ไปได้ ผักกินใบหลายชนิดตอบสนอง
ต่อจิบเบอเรลลินได้ดี โดยจะมีการเติบโตของเซลล์รวดเร็วขึ้น ทำให้ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้น
 ผักบางชนิดที่มีการเติบโตของต้นเป็นแบบกระจุก (
rosette plant) เช่น ผักกาดหอมห่อ
 ผักกาดขาวปลี กะหล่ำปลี ถ้ามีการใช้จิบเบอเรลลินกับพืชเหล่านี้ในระยะต้นกล้า
 จะทำให้เกิดการยืดตัวของต้นอย่างรวดเร็ว และออกดอกได้ ซึ่งเป็นประโยชน์ใน
แง่การผลิตเมล็ดพันธุ์ ในกรณีของไม้ผลยืนต้นหลายชนิด เช่น มะม่วง ส้ม และ
ไม้ผลเขตหนาวอื่น ๆ พบว่า จิบเบอเรลลินมีผลเร่งการเติบโตทางด้านกิ่งใบและยับยั้ง
การออกดอก ดังนั้นในกรณีที่ต้องการเร่งใบโดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะต้นกล้า จึงอาจ
ใช้จิบเบอเรลลินให้เป็นประโยชน์ได้ จิบเบอเรลลินยังมีผลช่วยขยายขนาดผลได้
เช่น องุ่น มะม่วง ซึ่งในปัจจุบันมีการใช้อยู่ในบางสวนของประเทศไทย ประโยชน์
ทางด้านอื่น ๆ ของจิบเบอเรลลินได้แก่ ใช้ในการเปลี่ยนแปลงดอกของพืชบางชนิด
 เช่น พืชตระกูลแตง และข้าวโพดหวาน ให้มีดอกตัวผู้มากขึ้น เพื่อประโยชน์ใน
การถ่ายละอองเกสรและยังใช้ทำลายการพักตัวของหัวมันฝรั่งและเมล็ดพืชบางชนิดได้

ภาพ : การเพิ่มขนาดของผลองุ่น โดยใช้จิบเบอเรลลิน
3. ไซโตไคนิน คุณสมบัติในการช่วยแบ่งเซลล์ของไซโตไคนินมีประโยชน์
ในงานเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืชเป็นอย่างมากโดยใช้ผสมเข้าไปในสูตรอาหารเพื่อ
ช่วยการเติบโตของแคลลัสและกระตุ้นให้ก้อนแคลลัสพัฒนากลายเป็นต้นได้
 ประโยชน์ทางด้านอื่นของไซโตไคนินมีค่อนข้างจำกัด นอกจากการนำมาใช้เร่งการ
แตกตาของพืช ซึ่งมีประโยชน์ในด้านการควบคุมทรงพุ่มและเร่งการแตกตาของพืช
ที่ขยายพันธุ์ด้วยการติดตาแล้ว ไซโตไคนินยังมีคุณสมบัติชะลอการแก่ชราของพืชได้
 จึงสามารถยืดอายุการเก็บรักษาผักกินใบและผลไม้ รวมทั้งดอกไม้ได้หลายชนิด
 แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เป็นเพียงงานทดลองเท่านั้น ยังไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์
ได้จริงจัง
4. เอทิลีนและสารปลดปล่อยเอทิลีน เป็นสารเร่งการสุกของผลไม้จึงใช้ใน
การบ่มผลไม้โดยทั่ว ๆ ไป การสุกของผลไม้ตามปกติก็เกิดจากการที่ผลไม้นั้น
สร้างเอทิลีนขึ้นมา ดังนั้นการให้เอทิลีนกับผลไม้ที่แก่จัดจึงสามารถเร่งให้เกิดการสุก
ได้เร็วกว่าปกติ โดยที่คุณภาพของผลไม้ไม่ได้เปลี่ยนไป ในต่างประเทศใช้ก๊าซเอทิลีน
เป็นตัวบ่มผลไม้โดยตรง แต่ต้องสร้างห้องบ่มโดยเฉพาะ ส่วนในประเทศไทยไม่มีห้องบ่ม
จึงใช้ถ่านก๊าซ (
calcium carbide) ในการบ่มผลไม้แทน โดยที่ถ่านก๊าซเมื่อทำปฏิกริยากับ
น้ำจะได้ก๊าซอะเซทิลีนออกมา ซึ่งมีผลเร่งการสุกเหมือนกับเอทิลีน เกษตรกรบางรายเริ่มนำ
 เอทีฟอน เข้ามาใช้บ่มผลไม้ แต่ยังไม่มีผู้ใดให้คำยืนยันในเรื่องพิษตกค้างของสารนี้
 เอทีฟอนเป็นสารปลดปล่อยเอทิลีนซึ่งนำมาใช้ประโยชน์ได้กว้างขวาง เช่น
 ใช้ในการเร่งดอกสับปะรด เร่งการไหลและเพิ่มปริมาณน้ำยางพาราและยางมะละกอ
เร่งการแก่ของผลไม้บนต้นให้แก่พร้อมกัน เช่น เงาะ มะม่วง ลองกอง องุ่น มะเขือเทศ
 กาแฟ เร่งการแก่ของใบยาสูบ และมีแนวโน้มที่จะนำสารนี้มาใช้ประโยชน์ได้อีกมาก
 โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อเร่งการแก่และการสุกของผลไม้

ภาพ : การใช้เอทิลีนในการบ่มผลไม้



อ้างอิง
วัชวัลย์ ครุฑไชยันต์. (๒๕๕๕). สารที่ควบคุมการเจริญเติบโตของพืช. 
สืบค้นเมื่อ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๕๕, จาก http://watchawan.blogspot.com/2010/05/blog-post_3852.html

พีระเดช   ทองอำไพ. (๒๕๕๒). สารที่ควบคุมการเจริญเติบโตของพืช. สืบค้นเมื่อ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๕๕, จาก http://reg.ksu.ac.th/teacher/myweb/plant%20propagation
มปป. (๒๕๕๐). ประโยชน์ของสารที่ควบคุมการเจริญเติบโต. สืบค้นเมื่อ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๕๕,
จาก http://www.doae.go.th/library/html/detail/hormone/hormone3.html